พริก (Chili)

Last updated: 29 พ.ย. 2566 | 462 จำนวนผู้เข้าชม |

พริก (Chili)

พริก (Chili) ชื่อวิทยาศาสตร์ Capsicum spp. วงศ์ SOLANACAEAC. ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับมะเขือเทศและมะเขือพวงพันธุ์พริกตามธรรมชาติมีแหล่งกระจายอยู่ทั่วโลก มีแหล่งกำเนิดในเขตร้อนของอเมริกา (อเมริกากลางและอเมริกาใต้) ในปัจจุบันมีการปลูกพริกแพร่หลายประเทศทั่วโลก เพราะพริกเป็นพืชที่มีความสำคัญต่อเราเป็นอย่างมากสำหรับการนำมาทำเป็นเครื่องเทศ อาหารของหลายประเทศนิยมนำพริกมาประกอบอาหารเพื่อให้ได้รสชาติเผ็ดของพริก สารที่ทำให้พริกเผ็ดนั้นเป็นสารแคปไซซิน (Capsicin) ปริมาณของสารนี้ในพริกจะส่งผลต่อความเผ็ดมากน้อยของพันธุ์พริก สำหรับพันธุ์พริกที่นิยมปลูกกันในปัจจุบันมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ทั้งนำมาบริโภค แปรรูปและรวมถึงการปลูกเพื่อการประดับตกแต่ง

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

          ราก พริกมีระบบรากแก้วและมีรากฝอยกระจายออกรอบโคนต้น หยั่งลึกลงไป

          ลำต้น ต้นพริกมีความสูงที่แตกต่างกันไปตามพันธุ์ แต่โดยทั่วไปมีความสูงประมาณ 30-120 เซนติเมตร มีลักษณะการเจริญเติบโตของกิ่งแบบ Dichotomous เป็นการแตกกิ่นจาก 1 เป็น 2 และ4 ไปเรื่อยๆ ลำต้นมีเขียวเข้มและมีสีม่วง (สารแอนโทไซยานิน) ประอยู่บริเวณข้อ

          ใบ เป็นใบเลี้ยงคู่มีขนาดตั้งแต่เล็กไปจนถึงกว้างใหญ่ไปรูปทรงหอกปลายแหลม สีเขียวเข้มหรือมีสีม่วงในบางสายพันธุ์

          ดอก เป็นดอกเดี่ยวเกิดบริเวณข้อ มีทั้งหนึ่งดอกและหลายดอกต่อข้อ (พริกช่อ) ดอกสีขาวหรือมีสีม่วงประบริเวณฐานกลีบดอก มีกลีบดอก 5-6 กลีบ อับละออง 5-6 อัน

          ผล มีรูปทรงและสีที่หลากหลาย มีทั้งลักษณะการเกิดผลแบบชี้ขึ้น และห้อยลงตามสายพันธุ์

เมล็ด ลักษณะของเมล็ดพริกจะเป็นทรงกลมแบนสีเหลืองออกส้มน้ำตาล ผิวเรียบ

วิธีการปลูกพริก

พริกเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ทั่วไปในทุกพื้นที่ทั่วประเทศประเทศ มีความต้องการน้ำที่เหมาะสมและสามารถทนสภาพอากาศที่แห้งแล้งได้พอสมควร แต่การจัดหาและจัดเตรียมพื้นที่อย่างหมาะสมเป็นการเริ่มต้นปลูกพริกเพื่อให้คุณภาพของผลผลิตที่ดี ในที่นี้จะมาพูดถึงการปลูกพริกอย่างง่ายสำหรับเกษตรกรมือใหม่

การเลือกและเตรียมที่ดิน ควรเลือกที่ดินที่มีความละเอียดสูงและร่วนซุย เหมาะสำหรับรากพริกในการเจริญเติบโต ทำการไถดินตากดินพร้อมกำจัดวัชพืชในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนการปลูก ทำแปลงให้กว้างประมาณ 1.2 เมตร ยกสูง 15-20 เซนติเมตร เว้นระยะแถวของแปลง 70-80 เซนติเมตร ควรปรับปรุงสภาพดินก่อนโดยการใส่ปุ๋ยคอกในอัตรา 2-3 ตันต่อไร่ หากดินเป็นกรดควรใส่ปูนขาว 100-200 กิโลกรัมต่อไร่ และเพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากทางดินควรมีการพ่นไตรโคเดอร์มาทางดินก่อนทำการเพาะปลูก

การเพาะเมล็ดและการย้ายกล้าปลูก การเพาะสามารถเพาะลงถาดหลุดโดยตรงได้เลย หรือนำเมล็ดไปหว่านลงดินเพาะหรือกระบะทรายเพื่อให้ง่ายต่อการย้ายกล้าเมื่อกล้าเจริญเติบโต ระยะเวลาในการเพาะจนถึงการย้ายปลูกจะอยู่ที่ประมาณ 20-25 วัน จึงจะสามารถย้ายปลูกลงแปลงได้ การปลูกพริกในแถวคู่จะเว้นระยะห่างระหว่างแถว 80 ซม. และห่างระหว่างต้น 80x80 ซม. ระหว่างต้นประมาณ 30-40 เซนติเมตร เพื่อให้พืชมีพื้นที่เพียงพอในการเจริญเติบโต

การป้องกันโรคและแมลง

โรคและแมลง มักพบโรคเน่าโคนเน่าที่เกิดจากเชื้อราในแปลงที่มีความชื้นสูงมีการระบายน้ำของแปลงที่ไม่ดี โรคเหี่ยวเขียวที่เกิดจากแบคทีเรีย โรคใบจุด โรคใบหงิกและโรคกุ้งแห้งแมลง ส่วนของแมลงศัตรูพืชมักพบเพลี้ยไฟและไรขาวที่เข้าทำลายพริกในระยะต่างๆ ซึ่งโรคและแมลงเหล่านี้หากมีการระบาดเป็นจำนวนมากจะส่งผลต่อผลผลิตอย่างมาก แนวทางในการป้องกันสำหรับโรคที่เกิดทางดินที่เกิดจากเชื้อราและแบคทีเรียสามารถป้องกันในขั้นตอนของการเตรียมดิน การใส่ปูนขาว การตากดินและการพ่นไตรโคเดอร์มาในช่วงแรกของการเตรียมดินเพาะปลูก ในส่วนของการป้องกันและกำจัดแมลงสามารถทำโดยการดูแลรักษาต้นพริกของเราให้สมบูรณ์เพื่อยากต่อการเข้าทำลายของแมลงโดยการฉีดพ่นสารกำจัดแมลงเพื่อป้องกันการเข้ามาทำลายของแมลงหากพบการระบาดต้องมีการจัดการที่เด็ดขาดโดยการใช้สารกำจัดแมลงที่มีฤทธิ์สูงขึ้นและฉีดพ่นถี่ขึ้นเพื่อระงับวงจรชีวิตของแมลงได้ สารเคมีที่ใช้เช่น คาร์บาริล, คาร์โบซัลแฟน, อิมิดาโคลพริด, อะบาแม็กตินและฟิโบรนิล

การเก็บเกี่ยวพริก

เมื่อพริกอายุ 95-100 วันเริ่มมีการสุกของผลจากล่างขึ้นมาข้างบนเป็นช่วงที่เริ่มมีการเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวได้ทั้งลูกที่สุกและลูกเขียวสำหรับการบริโภคลูกสีเขียว